โรงแรมที่พักส่วนใหญ่มีการเรียกเก็บเซอร์วิสชาร์จเช่นเดียวกับภัตราคารหรือเรือสำราญ หลายคนอาจจะไม่เคยสังเกตบิลหรืออาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเซอร์วิสชาร์จคืออะไร? ”เซอร์วิสชาร์จ" หรือภาษาอังกฤษว่า "Service Charge" คือค่าบริการที่ผู้ประกอบการคิดเพิ่มจากผู้บริโภคที่เข้ามาใช้บริการ โดย มีอัตราการเรียกเก็บตามกฎหมายอยู่ที่ไม่เกิน 10% เนื่องจากเป็นอัตราราคาที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่รับทราบตามสากลและยอมรับกันได้ครับ
ทำไมโรงแรมต้องเก็บ Service Charge
แล้วทำไมโรงแรมถึงต้องเรียกเก็บเซอร์วิสชาร์จ? เพราะกิจการโรงแรมถือเป็นการซื้อขายบริการ มากกว่าการเปิดห้องให้เข้าพัก
นอกจากนี้ยังมี งานบริการส่วนอื่น เพิ่มเติมอีก ตัวอย่างเช่น นำรถเข้าจอด ยกกระเป๋าส่งถึงห้อง สปา สระว่ายน้ำ ห้องอาหาร เป็นต้น จึงต้องมีการรเรียกเก็บเซอร์วิสชาร์จ เพื่อเป็นเหมือนทิปการให้บริการครับ ซึ่งคุณจะไม่ต้องให้ทิปพนักงานแล้วก็ได้ เพราะคุณได้จ่ายเซอร์วิสชาร์จรวมไปแล้ว เว้นแต่คุณจะถูกใจบริการของพนักงานคนไหนมากเป็นพิเศษ ถึงให้ทิปพนักงานคนนั้นเป็นการส่วนตัว
เซอร์วิสชาร์จโรงแรมไปไหน?
แล้วเซอร์วิสชาร์จโรงแรมไปไหน? ตกที่พนักงานหรือโรงแรมกันแน่? วิธีการคิดเซอร์วิสชาร์จของโรงแรมมีหลายแบบ ไม่ตายตัว ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละโรงแรม แต่หลักๆจะแบ่งเป็น 2 ส่วน อัตราส่วนขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละโรงแรม
ส่วนของโรงแรม เพื่อใช้เป็นค่าซ่อมบำรุง ค่าโบนัส และอื่นๆ อาจมีการหักไว้อีกเล็กน้อยเพื่อเป็นค่าของแตกหักเสียหาย
ส่วนให้พนักงาน ในส่วนที่ให้พนักงานนั้นจะคิดในอัตราส่วนที่หักจากส่วนของโรงแรมแล้ว โรงแรมอาจนำยอดรวมของเซอร์วิสชาร์จทั้งหมดมาหารแบ่งให้พนักงานทุกคน ยกเว้นมีกฎเกณฑ์ในการหัก Service charge เช่น ขาด ลา มาสาย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละโรงแรม
สรุปได้ว่า 'เซอร์วิสชาร์จ' ส่วนใหญ่ก็เป็นของพนักงาน แต่จะมีการหักกรณีอื่นๆไปบ้าง แล้วแต่นโยบายของแต่ละที่นั่นเอง แต่ที่แน่ๆ 'เงินส่วนนี้' จะถูกนำไปเป็นเงินพิเศษ เพิ่มเติมจากเงินเดือนของพนักงานแน่นอน
อยากทำงาน รายได้ดี มีเซอร์วิสชาร์จ สมัครเรียนได้ที่
เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ 👉 www.c-hot.org 👈
หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่
LINE : @C-HOT
โทรสอบถาม 089-732-3015 อาจารย์ตุ๊ก / 085-578-3243 อาจารย์เนย์
082-261-4068 แอดมินก้อย
หรือ INBOX มาที่ Cruise & Hotel Training School สำนักงานใหญ่จังหวัดตรัง
Comments